๑. การอ่านจำนวนเลขตั้งแต่ ๒ หลักขึ้นไป ถ้าเลขตัวท้ายเป็นเลข ๑ ให้ออกเสียงว่า "เอ็ด" เช่น
เขียน อ่านว่า
๑๑ สิบ - เอ็ด
๒๑ ยี่ - สิบ - เอ็ด
๑๐๑ ร้อย - เอ็ด หรือ หนึ่ง - ร้อย - เอ็ด
๑๐๐๑ พัน - เอ็ด หรือ หนึ่ง - พัน -เอ็ด
๒๕๐๑ สอง - พัน - ห้า - ร้อย - เอ็ด
๕๐๑,๗๔๑,๒๒๑ ห้า - ร้อย - เอ็ด - ล้าน -
เจ็ด - แสน - สี่ -หมื่น - หนึ่ง - พัน -
สองร้อย - ยี่ - สิบ - เอ็ด
๒. การอ่านตัวเลขที่มีจุดทศนิยม
๒.๑ ตัวเลขหน้าจุดทศนิยม ให้อ่านแบบจำนวนเต็ม ตัวเลขหลังจุดทศนิยม ให้อ่านแบบเรียงตัว เช่น
เขียน อ่านว่า
๑.๒๓๕ หนึ่ง - จุด - สอง - สาม - ห้า
๕๑.๐๘ ห้า - สิบ - เอ็ด - จุด - สูน - แปด
๒.๒ ตัวเลขที่เป็นเงินตรา หรือ หน่วยนับ ให้อ่านตามหน่วยเงินตรา หรือ หน่วยนับนั้นๆ เช่น
เขียน อ่านว่า
๕.๘๐ บาท ห้า - บาท - แปด - สิบ - สะ - ตาง
๘.๖๕ ดอลลาร์ แปด - ดอน - ล่า - หก - ห้า - เซ็น
๓.๕๘ เมตร สาม - เมด - ห้า - สิบ - แปด - เซ็น - ติ - เมด
๒.๒๐๕ กิโลกรัม สอง - กิ - โล - กรัม - สอง - ร้อย - ห้า - กรำ
๓. การอ่านตัวเลขบอกเวลา
๓.๑ การอ่านชั่วโมงที่ไม่มีจำนวนนาที เช่น
เขียน อ่านว่า
๐๕.๐๐ น. หรือ ๐๕:๐๐ น. ห้า - นา - ลิ - กา
๒๔.๐๐ น. หรือ ๒๔:๐๐ น. ยี่ - สิบ - สี่ - นา - ลิ - กา
๐๐.๐๐ น. หรือ ๐๐:๐๐ น. สูน - นา - ลิ - กา
๓.๒ การอ่านชั่วโมงกับนาที เช่น
เขียน อ่านว่า
๑๑.๓๕ น. หรือ ๑๑:๓๕ น. สิบ - เอ็ด - นา - ลิ - กา - สาม - ห้า - นา - ที
๑๖.๓๐ น. หรือ ๑๖:๓๐ น. สิบ - หก - นา - ลิ - กา - สาม - สิบ - นา -ที
๐๐.๐๕ น. หรือ ๐๐:๐๕ น. สูน - นา - ลิ - กา - ห้า - นา - ที
๓.๓ การอ่านชั่วโมง นาที และวินาที เช่น
เขียน อ่านว่า
๗:๓๐:๔๕ เจ็ด - นา -ลิ - กา -สาม - สิบ - นา - ที - สี่ - สิบ - ห้า - วิ - นา - ที
๐๒:๒๘:๑๕ สอง - นา - ลิ - กา - ยี่ - สิบ - แปด - นา - ที - สิบ - ห้า - วิ - นา - ที
๓.๔ การอ่านเวลที่มีเศษของวินาที ตัวเลขหลังจุดทศนิยมที่เป็นเศษของวินาที ให้อ่านเรียงตัว เช่น
เขียน อ่านว่า
๘:๐๒:๓๗.๘๖ แปด - นา - ลิ - กา - สอง - นา- ที - สาม - สิบ - เจ็ด - จุด - แปด -หก - วิ - นา -ที
๑๐-๑๔-๒๔.๓๗ สิบ - นา - ลิ - กา - สิบ - สี่ - นา - ที - ยี่ - สิบ - สี่ - จุด - สาม - เจ็ด - วิ - นา -ที
หมายเหตุ : การเขียนตัวเลขบอกเวลาโดยใช้เครื่องหมายทวิภาค (:) คั่นระหว่างตัวเลขบอกชั่วโมง นาที วินาที เป็นวิธีการเขียนอย่างทั่วไปส่วนการใช้เครื่องหมายยติภังค์ (-) คั่นระหว่างตัวเลขบอกชั่วโมง นาที วินาที เป็นวิธีการเขียนที่ใช้ในการเดินเรือหรือทางดาราศาสตร์
๔. การอ่านตัวเลขที่แสดงมาตราส่วน หรือ อัตราส่วน เช่น
เขียน อ่านว่า
๑:๑๐๐,๐๐๐ หนึ่ง - ต่อ - แสน หรือ
หนึ่ง - ต่อ - หนึ่ง - แสน
๑:๒:๔ หนึ่ง - ต่อ - สอง - ต่อ - สี่
๕. การอ่นเลขหนังสือราชการ นิยมอ่านเรียงตัว เช่น
- หนังสือที่ รถ ๐๐๐๑/๑๐๒ ลว. ๑๐ ตุลาคม ๒๕๓๘ อ่านว่า หนัง - สือ - ที่ รอ - ถอ สูน - สูน - สูน - หนึ่ง ทับ หนึ่ง - สูน - สอง ลง - วัน - ที่ สิบ ตุ - ลา - คม พุด - ทะ - สัก - หราด สอง - พัน - ห้า - สาม - สิบ - แปด
- หนังสือที่ ศธ ๐๐๓๐.๐๑/๕๙๗ ลว. ๘ พ.ย. ๒๕๓๔ อ่านว่า หนัง - สือ - ที่ สอ - ทอ สูน - สูน - สาม - สูน - จุด - สูน - หนึ่ง ทับ ห้า - เก้า - เจ็ด ลง - วัน - ที่ แปด พรึด - สะ - จิ - กา - ยน พุด - ทะ - สัก - กะ - หราด สอง - พัน - ห้า - ร้อย - สาม - สิบ - สี (เพิ่มข้อความ "พุทธศักราช" เพื่อให้ความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น)
๖. การอ่านเลข ร.ศ. ที่มีการเทียบเป็น พ.ศ. กำกับ เช่น
- ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) อ่านว่า รัด - ตะ - นะ - โก - สิน - สก ร้อย - สิบ - สอง ตรง - กับ พุด - ทะ - สัก - กะ - หราด สอง - พัน - สี่ - ร้อย - สาม - สิบ - หก (เพิ่มข้อความ "ตรงกับ" เพื่อให้ความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น) หรือ รัด - ตะ - นะ - โก - สิน - สก ร้อย - สิบ - สอง วง - เล็บ - เปิด พุด - ทะ - สัก - กะ - หราด สอง - พัน - สี่ - ร้อย - สาม - สิบ - หก วง - เล็บ - ปิด
๗.การอ่านบ้านเลขที่
- บ้านเลขที่ทีมีเครื่องหมายทับ (/) และบ้านเลขที่ที่ไม่มีเครื่องหมายทับ (/) มีหลักการอ่านเหมือนกัน คือ บ้านเลขที่ซึ่งมีตัวเลข ๒ หลัก ให้อ่านแบบจำนวนเต็ม ถ้ามีตัวเลข ๓ หลักขึ้นไป ให้อ่านเรียงตัวหรือแบบจำนวนเต็ม ส่วนตัวเลขหลังเครื่องหมายทับ (/) ให้อ่านเรียงตัว เช่น
บ้านเลขที่ ๔๑๔ อ่านว่า บ้าน - เลก - ที่ สี่ - หนึ่ง - สี่ หรือ บ้าน - เลก - ที่ สี่ - ร้อย - สิบ - สี่
บ้านเลขที่ ๖๕๗/๒๑ อ่านว่า บ้าน - เลก - ที่ หก - ห้า - เจ็ด ทับ สอง - หนึ่ง หรือ บ้าน - เลก - ที่ หก - ร้อย - ห้า - สิบ - เจ็ด ทับ สอง - หนึ่ง
- กลุ่มตัวเลขที่มีเลข ๐ นำหน้า อ่านเรียงตัวเสมอ เช่น
๘. การอ่านรหัสไปรษณีย์
รหัสไปรษณีย์เป็นกลุ่มตัวเลขที่กำหนดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้ทราบถึงปลายทางของสิ่งที่ส่งทางไปรษณีย์ และใช้แทนรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้การคัดแยกและส่งต่อทางไปรษณืย์ไปยังปลายทางเป็นไปด้วความถูกต้องและรวดเร็วรหัสไปรษณีย์ประกอบด้วยตัวเลข ๕ ตัว ตัวเลข ๒ ตัวแรก หมายถึง จังหวัด ส่วนตัวเลข ๓ ตัวหลัง หมายถึงที่ทำการไปรษณีย์ของจังหวัดนั้นๆ เช่น รหัสไปรษณีย์ ๓๒๑๙๐ ตัวเลข ๓๒ หมายถึง จังหวัดสุรินทร์ ส่วนตัวเลข ๑๙๐ หมายถึงที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งรับผิดชอบการนำจ่ายสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ในพื้นที่ชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
การอ่านเลขรหัสไปรษณีย์ ให้อ่านตัวเลขแบบเรียงตัว ดังนี้
รหัสไปรษณีย์ ๓๒๑๙๐ อ่านว่า ระ - หัด - ไปร - สะ - นี สาม - สอง - หนึ่ง - เก้า - สูน
๙. การอ่านเลขแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์
๙.๑ แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้อ่านหมายเลขประจำหมวดกับตัวอักษรบอกหมวดก่อน แล้วจึงอ่านตัวเลขแบบเรียงตัว ตามด้วยชื่อจังหวัดที่จดทะเบียน ส่วนแผ่นป้ายทะเบียนตามกฏกระทรวง ฉบับที่ ๒๕ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้อ่านตัวอักษรบอกหมวดก่อนแล้วอ่านตัวเลขแบบเรียงตัวตามด้วยชื่อจังหวัดที่จดทะเบียน ดังนี้
เลขทะเบียน ๕ช-๒๔๓๗ กรุงเทพมหานคร อ่านว่า เลก - ทะ - เบียน ห้า - ชอ - ช้าง สอง - สี่ - สาม - เจ็ด กรุง - เทบ - มะ - หา - นะ - คอน
เลขทะเบียน ภบ ๔๑๐๗ กรุงเทพมหานคร อ่านว่า เลก - ทะ - เบียน พอ - สำ - เพา - บอ - ใบ - ไม้ สี่ - หนึ่ง - สูน - เจ็ด กรุง - เทบ - มะ - หา - นะ - คอน
๙.๒ แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ ๒๕๒๒ นั้น ให้อ่านตัวเลขรหัสแสดงประเภทรถยนต์ก่อน แล้วจังอ่านตัวเลขแบบเรียงตัว ตามด้วยชื่อรหัสจังหวัดที่จดทะเบียน ดังนี้
เลขทะเบียน ๘๐-๒๔๓๗ กรุงเทพมหานคร ๐๑ อ่านว่า เลก - ทะ - เบียน แปด - สูน - สอง - สี่ - สาม - เจ็ด กรุง - เทบ - มะ - หา - นะ - คอน สูน - หนึ่ง
๑๐. การอ่านหมายเลขโทรศัพท์
การอ่านหมายเลขโทรศัพท์ แต่เดิมกำหนดให้อ่านเลข "สอง" ว่า "โท" เพื่อให้เสียงอ่านเลข "๒" กับเลข "๓" แตกต่างกัน เนื่องจากหมายเลขโทรศัพท์ประกอบด้วยตัวเลขหลายตัว บางครั้งอาจมีเลข ๒ และ ๓ อยู่เรียงกันหลายตัว เสียงอ่านเลข "๒" กับเลข "๓" มีเสียงใกล้เคียงกัน แต่ปัจจุบันระบบโทรศัพท์พัฒนาเจริญก้าวหน้ามาก เสียงอ่านเลข "๒" ไม่สับสนเป็น "๓" จึงให้อ่านเลขหมายโทรศัพท์ "๒" ว่า "สอง" หรือจะอ่านว่า "โท" ก็ได้
๑๐.๑ หมายเลขโทรศัพท์ในประเทศ
ในปัจจุบันได้มีการกำหนดรูปแบบหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศทั้งโทรศพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยรวมหมายเลขรหัสไกลหรือรหัสโทรเคลื่อนที่ที่มีอยู่เดิมเข้ากับหมายเลขโทรศัพท์เป็นหมายเลข ๙ หลัก การเขียนและอ่านหมายเลขโทรศัพท์ ซึงเดิมเขียนและอ่านหมายเลขรหัสทางไกลหรือรหัสโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อนแล้วจึงเขียนและอ่านหมายเลขโทรศัพท์ ได้รับเปลี่ยนใหม่ เป็นดังนี้
ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งเดิมมีรหัสทางไกล ๐๒ เขียนดังนี้
หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๕๓๑ ๓๒๓๔ อ่านว่า หมาย - เลก - โท - ระ - สับ สูน สอง - ห้า - สาม - หนึ่ง สาม - สอง - สาม - สี่ หรือ หมาย - เลก - โท - ระ - สับ สูน โท - ห้า - สาม - หนึ่ง สาม - โท - สาม - สี่
หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๖๔๓ ๕๑๕๑-๒๒ อ่านว่า หมาย - เลก - โท - ระ - สับ สูน สอง - หก - สี่ - สาม ห้า - หนึ่ง - ห้า - หนึ่ง ถึง สอง - สอง
ในต่างจังหวัด เช่น จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเดิมมีรหัสทางไกล (๐๓๒) เขียนดังนี้
หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๓๒๒๑ ๑๒๓๔ อ่านว่า หมาย - เลก - โท - ระ - สับ สูน สาม - สอง - สอง - หนึ่ง หนึ่ง - สอง - สาม - สี่ หรือ หมาย - เลก - โท - ระ - สับ สูน สาม - โท - โท - หนึ่ง หนึ่ง - โท - สาม - สี่
หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งมัรหัส ๐๘๑ ๐๘๙ ๐๘๖ เขียนดังนี้
หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘ ๑๕๕๓ ๐๗๔๓ อ่านว่า หมาย - เลก - โท - ระ - สับ สูน - แปด หนึ่ง - ห้า - สาม สูน - เจ็ด - สี่
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
มีคำผิดเยอะไปหน่อย
ตอบลบ